รัฐบาลปรับแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก เดินหน้าสนับสนุนตลาดการท่องเที่ยวระยะไกล เน้นเจาะตลาดสหรัฐฯ-ยุโรป-ตะวันออกกลาง เผยนักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบีย เข้าไทยมากขึ้นจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ปรับแผนยุทธศาสตร์การทำงานเพื่อเป็นไปตามสถานการณ์ตลาด ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางแผนสนับสนุนตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะจากยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ให้เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น กระตุ้นรายได้ตลาดการท่องเที่ยวตามเป้าหมายคาดการณ์ มูลค่ารวม 1.62 ล้านล้านบาท
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า ได้ดำเนินนโยบายด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แบ่งเป็นตลาดการท่องเที่ยวระยะใกล้ และตลาดการท่องเที่ยวระยะไกล โดยช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวยุโรปเดินทางเข้าไทย 2,933,660 คน อเมริกา 620,474 คน ตะวันออกกลาง 231,206 คน จากสถิติที่ผ่านมา ตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล (Long haul) จากยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว รวมถึงเวลาที่พำนักอยู่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ
จากข้อมูลการวิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศปี 2566 ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-มีนาคม) พบว่านักท่องเที่ยวจากยุโรป มีวันพักเฉลี่ย 19.40 วัน ใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 71,718 บาทต่อทริป นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง มีวันพักเฉลี่ย 16.17 วัน ใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 99,172 บาทต่อทริป และนักท่องเที่ยวจากอเมริกา มีวันพักเฉลี่ย 15.26 วัน ใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 76,297 บาทต่อทริป
ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นช่วง เมษายน-ตุลาคมนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จึงเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล เกิน 7 ล้านคน ในปี 2566 สร้างมูลค่า 6.6 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วางแผนเปิดสำนักงานใหม่ที่ เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา เพิ่มจากเดิมที่มีสำนักงานอยู่ที่เมืองนิวยอร์ก และเมืองลอสแอนเจลิส โดยทำการตลาดด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติมในตอนกลางของอเมริกา และพื้นที่ตลาดแคนาดา เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวแบบเช่าเหมาลำมากขึ้น และตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง จะเปิดสำนักงานใหม่ ที่กรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย เพื่อรุกทำตลาดนักท่องเที่ยวซาอุฯ อย่างเต็มที่ พร้อมดูแลและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น แอฟริกาตอนเหนือ ซึ่งมีความใกล้เคียงกันในเชิงวัฒนธรรมกับตลาดซาอุฯ
อย่างไรก็ดี ตลาดซาอุฯ ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยสถิติช่วงวันที่ 1 มกราคม-10 กรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวสะสม 75,652 คน มากเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นผลสืบเนื่องจากการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี 2565
“รัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่อย่างต่อเนื่อง ประเมินตลาด ปรับเปลี่ยนการทำงาน พร้อมทั้งจัดกิจกรรมและนิทรรศการ ที่รองรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งปี เพื่อให้ไทยอยู่ในกระแสความนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาแนวทางการท่องเที่ยวอย่างสมดุล และยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ ของประเทศอีกด้วย” น.ส.รัชดา กล่าว
จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 8 สิงหาคม 2566