บีโอไอผนึก 2 เอกชน จัดงานจับคู่ธุรกิจห่วงโซ่อุปทานรถ EV

          นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา บีโอไอได้ร่วมกับบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) และบริษัท ดับบลิว เอชเอ คอร์ปอเรชั่น จัดกิจกรรม “BYD Sourcing Day” ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ระหว่างบริษัท บีวายดี (BYD) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ชั้นนำของโลกและอันดับหนึ่งของประเทศจีน กับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยที่มีศักยภาพ

          สำหรับกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ “BYD Sourcing Day” ในครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชิ้นส่วนอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่มีศักยภาพกว่า 160 บริษัท ได้เข้าร่วมการเจรจาธุรกิจกับบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเน้นไปที่ชิ้นส่วนสำคัญและบริการใน 7 กลุ่มตามความต้องการของ BYD ได้แก่ 1.ระบบส่งกำลังรถยนต์ (Powertrain) 2.ชิ้นส่วนแบตเตอรี่แรงดันสูง 3.อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ 4.กลุ่มงานบริการ (Services Department) 5.ระบบบริหารจัดการ (Administration Services) 6.อุปกรณ์สำหรับการซ่อมบำรุงในโรงงาน (MRO) และ 7.การขนส่งและโลจิสติกส์ โดยมีผู้ประกอบการในประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจมากกว่า 400 คน

          “ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอีวีอย่างครบวงจร นอกเหนือจากการให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนแล้ว บีโอไอยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างบริษัทผลิตรถยนต์อีวี กับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน และเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทย ได้เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนระดับโลก โดยเฉพาะในห้วงเวลาสำคัญที่ประเทศไทยสามารถดึงดูดผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ให้ตัดสินใจเข้ามาสร้างฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมากในระยะเวลาที่ผ่านมา” นายนฤตม์ กล่าว

          ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท บีวายดี ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งแบตเตอรี่และชิ้นส่วนรถยนต์ EV รวม 6 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ของ BYD แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน จากความเชื่อมั่นในนโยบายและมาตรการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกระแสการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน BYD ถือเป็น ค่ายรถยนต์อันดับ 1 ในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทยโดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 35 (ประมาณ 1.5 หมื่นคัน) และมียอดจองรวมทุกรุ่นประมาณ 200 คันต่อวัน

          นายนฤตม์กล่าวว่า งานครั้งนี้ถือเป็นงานเชื่อมโยงธุรกิจแบบมุ่งเป้าที่บีโอไอได้รวบรวมบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพ มาจัดแสดงสินค้าและร่วมเจรจาธุรกิจ อาทิ บริษัท ซัมมิท อีเล็คโทรนิค คอมโพเน้นท์, ไทยซัมมิท ฮาร์เนส, สามมิตรเทค, จงไทยรุ่งเรือง, แปซิฟิค รับเบอร์ เวิร์คส์, เอสวีไอ, เคซีอี อีเลคโทรนิคส์, ตลอดจนบริษัทต่างชาติที่มีฐานการผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย เช่น บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช, บอร์กวอร์เนอร์,เม็กเท็ค แมนูแฟ็คเจอริ่ง คอร์ปอเรชั่น และผู้ประกอบการ SMEs ไทยในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์อีกจำนวนมาก

          “เรามองเห็นศักยภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ประเทศไทยพัฒนาฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ได้สั่งสมประสบการณ์และทักษะ จนสามารถผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสากล เพื่อป้อนให้กับบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกมาอย่างยาวนานไม่ว่าจะเป็นค่ายรถญี่ปุ่น เยอรมนี หรืออเมริกา ครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ผลิตกลุ่มนี้จะเข้าไปมีบทบาทในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมอีวี โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของจีนอย่าง BYD และยังเป็นการแสดงศักยภาพให้เห็นว่า ประเทศไทยมีซัพพลายเชนที่เข้มแข็ง เหมาะสมที่จะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการลงทุน และสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคต่อไป” นายนฤตม์ กล่าว

จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 13 กรกฎาคม 2566

Scroll to Top
Skip to content