พ.ค. ส่งออกติดลบ 4.6% สินค้าเกษตรร่วงหนัก -4 ปัจจัยลบรอถล่ม

          นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศ-การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนพฤษภาคม 2566 และ 5 เดือนแรกของปี 2566 โดยระบุว่าการส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม 2566 มีมูลค่า 24,340.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (830,448 ล้านบาท) หดตัว 4.6% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัว 1.4% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมโลกเร่งตัวขึ้นจากการผ่อนคลายปัญหาห่วงโซ่การผลิต แต่คำสั่งซื้อใหม่สำหรับการส่งออกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดได้ส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคควบคุมการใช้จ่ายมากขึ้น

          อย่างไรก็ตามการส่งออกของไทยหดตัวน้อยลงกว่าเดือนก่อนหน้า และทำมูลค่าสูงกว่ามูลค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังของเดือนพฤษภาคม (21,658.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวในรอบ 8 เดือนจากกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำฯ หม้อแปลงไฟฟ้าฯ) ยานพาหนะและส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้า(เช่น เครื่องปรับอากาศ) ขณะที่ตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ อาเซียน (5) และสหภาพยุโรป กลับมาขยายตัวอีกครั้ง ทั้งนี้ การส่งออกไทย 5 เดือนแรก หดตัว 5.1% และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัว 2.1%

          ส่วนมูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐเดือนพฤษภาคม 2566 การส่งออก มีมูลค่า 24,340.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 4.6% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 26,190.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 3.4%ดุลการค้า ขาดดุล 1,849.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวม 5 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออก มีมูลค่า 116,344.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 5.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 122,709.5 ล้านเหรียญสหรัฐหดตัว 2.5% ดุลการค้า 5 เดือนแรกของปี 2566 ขาดดุล 6,365.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนพฤษภาคม 2566 การส่งออก มีมูลค่า 830,448 ล้านบาทหดตัว 2.8% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนการนำเข้า มีมูลค่า 904,563 ล้านบาท หดตัว 1.7% ดุลการค้า ขาดดุล 74,115 ล้านบาท ภาพรวม5 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออก มีมูลค่า3,941,426 ล้านบาท หดตัว 2.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า4,210,326 ล้านบาท ขยายตัว 0.2% ดุลการค้า5 เดือนแรกของปี 2566 ขาดดุล 268,901 ล้านบาท

          ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 16.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หดตัวในรอบ 4 เดือน โดยหดตัวจากสินค้าเกษตรสูงถึง 27.0% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 0.6% หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน โดยมีสินค้าเกษตรสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ น้ำตาลทราย ข้าว เครื่องดื่ม ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา อาหารสัตว์เลี้ยง ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์

          ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 1.5% (YoY) กลับมาขยายตัวในรอบ 8 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง

          ส่วนสถานการณ์ของตลาดส่งออกสำคัญส่วนใหญ่กลับมาขยายตัว อาทิ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และอาเซียน (5 ประเทศ) สะท้อนอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าหลายประเทศจะยังเผชิญกับความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวในระดับสูงอย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลให้การส่งออกไปตลาดจีนกลับมาหดตัว

          สำหรับแนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไปกระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า ไทยกำลังเผชิญปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกจาก 1.การชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าที่อาจลุกลามไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรป 2.สภาพอากาศแปรปรวน อาจส่งผลต่อปริมาณสินค้าเกษตรที่ผลิตได้ในปีนี้ 3.แรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อการบริโภค และภาคการผลิตสินค้า 4.การเปลี่ยนแปลงแนวทางนโยบายการค้าของคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะนโยบายการพึ่งพาตนเองของจีน

จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน 2566

Scroll to Top
Skip to content